ข้อบังคับสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ
ว่าด้วยการดำเนินการเพื่อให้มีผู้มาดำรงตำแหน่งแทนกรรมการที่พ้นจากตำแหน่ง
พ.ศ. ๒๕๕๗
อาศัยอำนาจตามความในข้อ ๑๖(๔) แห่งธรรมนูญสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๐ คณะกรรมการสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติออกข้อบังคับว่าด้วยการดำเนินการเพื่อให้มีผู้มาดำรงตำแหน่งแทนกรรมการที่พ้นจากตำแหน่งก่อนครบวาระตามข้อ ๑๓ และยังมีวาระการดำรงตำแหน่งเหลืออยู่ไม่น้อยกว่าหกสิบวันตามข้อ ๑๔ ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑. ข้อบังคับนี้เรียกว่า “ข้อบังคับสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ ว่าด้วยการดำเนินการเพื่อให้มีผู้ดำรงตำแหน่งแทนกรรมการที่พ้นจากตำแหน่ง พ.ศ. ๒๕๕๗”
ข้อ ๒. ข้อบังคับนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๒๖ สิงหาคม ๒๕๕๗
ข้อ ๓. ในกรณีที่มีกรรมการพ้นจากตำแหน่งก่อนครบวาระตามธรรมนูญสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๐ ข้อ ๑๓ (๒) ถึง (๙) และมีวาระการปฏิบัติหน้าที่เหลืออยู่ไม่น้อยกว่าหกสิบวัน เมื่อได้พิจารณาถึงองค์ประกอบ คุณสมบัติ และการได้มาของคณะกรรมการสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ ตามข้อ ๑๑ แห่งธรรมนูญสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ ให้คณะกรรมการสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติแต่งตั้งคณะกรรมการสรรหา ในการประชุมครั้งถัดไปของคณะกรรมการสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ ด้วยการเลือกจากคณะกรรมการสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติจำนวนไม่เกินห้าคน และไม่ต่ำกว่าสามคน มีประธานสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ หรือผู้ได้รับมอบหมายเป็นประธานกรรมการสรรหาและให้เลขาธิการสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ หรือผู้ได้รับมอบหมายเป็นเลขานุการ
ข้อ ๔. การดำเนินการตามข้อ ๓ ให้คณะกรรมการสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติดำเนินการให้มีผู้มาดำรงตำแหน่งแทนตามประเภทของกรรมการที่พ้นจากตำแหน่งนั้น โดยดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในสิบห้าวัน และให้ผู้ที่ได้รับการคัดเลือกใหม่อยู่ในตำแหน่งตามวาระของกรรมการที่พ้นจากตำแหน่ง
ข้อ ๕. วิธีการสรรหาให้ถือปฏิบัติตามขั้นตอนดังนี้
(๑) ให้คณะกรรมการสรรหาแจ้งองค์กรสมาชิกผู้มีสิทธิ์เสนอชื่อร่วมกันเสนอชื่อผู้ดำรงตำแหน่ง
แทนตามประเภทของกรรมการที่พ้นจากตำแหน่งโดยกำหนดวันสิ้นสุดการเสนอชื่อให้ชัดแจ้งและให้รวบรวมรายชื่อผู้ที่ถูกเสนอชื่อให้แล้วเสร็จภายในสามวัน เพื่อให้ผู้ถูกเสนอเลือกกันเองให้เหลือตามจำนวนตำแหน่งที่ว่างนั้นภายในห้าวัน ในกรณีไม่สามารถเลือกกันเองได้ ให้คณะกรรมการสรรหาเสนอรายงานต่อคณะกรรมการสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติเป็นผู้พิจารณาด้วยการลงคะแนนลับ และให้ถือมติดังกล่าวเป็นที่สุด
หากมีผู้ได้รับการเสนอชื่อเพียงคนเดียวหรือเท่าจำนวนตำแหน่งที่ว่างของแต่ละประเภทให้
ดำเนินการแต่งตั้งบุคคลผู้ถูกเสนอชื่อนั้นแทนตำแหน่งที่ว่างลงได้
(๒) กรณีผู้พ้นจากตำแหน่งเป็นกรรมการประเภทผู้ทรงคุณวุฒิในสาขาอาชีพ ให้คณะกรรมการสรรหาพิจารณาคัดเลือกจากผู้ได้รับการเสนอชื่อไม่น้อยกว่าสามคน โดยให้ถือตามเสียงข้างมากเป็นเกณฑ์หรือให้ถือเป็นยุติโดยประธานกรรมการสรรหาเป็นผู้ชี้ขาด
ให้คณะกรรมการสรรหาเสนอผลการสรรหาต่อประธานสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติออกประกาศแต่งตั้งกรรมการผู้ดำรงตำแหน่งแทนภายในห้าวันนับแต่วันสิ้นสุดการสรรหาโดยให้มีผลนับตั้งแต่วันประกาศเป็นต้นไป
(๓) กรณีหากไม่สามารถดำเนินการตามข้อบังคับนี้ได้ เช่น ไม่มีผู้สมัคร หรือกรณีอื่นใด ให้
เป็นมติของคณะกรรมการสรรหาทำความเห็นเสนอคณะกรรมการสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ มีมติให้เป็นที่สุดต่อไป
ประกาศ ณ วันที่ ๒๖ สิงหาคม ๒๕๕๗
สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ