สภาการหนังสือพิมพ์ฯ เตรียมยกระดับกำกับดูแลกันเองทางจริยธรรม ขยายครอบคลุมสื่อวิทยุ โทรทัศน์ และออนไลน์ พร้อมเปิดรับฟังความคิดเห็นต่อร่างธรรมนูญสภาการสื่อมวลชนแห่งชาติจากสมาชิกและองค์กรที่เกี่ยวข้อง

สภาการหนังสือพิมพ์ฯ เตรียมยกระดับกำกับดูแลกันเองทางจริยธรรม ขยายครอบคลุมสื่อวิทยุ โทรทัศน์ และออนไลน์ พร้อมเปิดรับฟังความคิดเห็นต่อร่างธรรมนูญสภาการสื่อมวลชนแห่งชาติจากสมาชิกและองค์กรที่เกี่ยวข้อง

นายชวรงค์ ลิมป์ปัทมปาณี ประธานสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ เปิดเผยถึงการจัดรับฟังความคิดเห็นต่อร่างธรรมนูญสภาการสื่อมวลชนแห่งชาติ ว่า เนื่องจากสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ ได้ดำเนินการกำกับดูแลกันเองทางจริยธรรมในหมู่ผู้ประกอบวิชาชีพหนังสือพิมพ์ และสื่อออนไลน์ เพื่อส่งเสริมเสรีภาพความรับผิดชอบต่อการรับรู้ข่าวสารและการแสดงความคิดเห็นของพลเมืองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข โดยได้ประกาศใช้ธรรมนูญสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ พ.ศ. 2540 มาครบ 23 ปีแล้ว

ดังนั้น เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงของภูมิทัศน์สื่อในปัจจุบันที่มีความหลากหลายมากขึ้น รวมทั้งเพื่อให้สอดคล้องกับการทำหน้าที่ขององค์กรกำกับดูแลด้านจริยธรรมของสื่อมวลชนในประเทศเพื่อนบ้าน ที่มีความครอบคลุมไปถึงสื่อมวลชนอื่น ๆ ด้วย คณะกรรมการสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ จึงมีมติให้ยกร่างธรรมนูญสภาการสื่อมวลชนแห่งชาติ ขึ้นมาใหม่ เพื่อให้สอดรับกับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว

นายชวรงค์ กล่าวว่า บัดนี้ร่างธรรมนูญสภาการสื่อมวลชนแห่งชาติ ได้ยกร่างแล้วเสร็จ จึงได้ดำเนินการเปิดรับฟังความคิดเห็นจากสมาชิกสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ รวมถึงองค์กรที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ

สาระสำคัญของร่างธรรมนูญสภาการสื่อมวลชนแห่งชาติ ที่มีการรับฟังความคิดเห็นประกอบด้วย ความจำเป็นในการขยายกรอบการกำกับดูแลกันเองไปถึงสื่อวิทยุ และโทรทัศน์ โดยการยกเลิกธรรมนูญสภาการหนังสือพิมพ์ฯ ให้ใช้ธรรมนูญสภาการสื่อมวลชนฯ แทน การรับสมัครสมาชิกของสื่อแต่ละประเภท ซึ่งต้องมีการกำหนดคุณสมบัติของสมาชิก การได้มาของคณะกรรมการสภาการสื่อมวลชนฯ คุณสมบัติของกรรมการ และสัดส่วนของกรรมการที่มาจากสมาชิกของสื่อแต่ละประเภท การได้มาของคณะกรรมการจริยธรรม โครงสร้างกรรมการจริยธรรม และบทบาทหน้าที่ของคณะกรรมการจริยธรรม รวมถึงการพิจารณาเรื่องร้องเรียน และความรับผิดทางจริยธรรม