รายงานสถานการณ์ด้านจริยธรรมวิชาชีพสื่อมวลชน ประจำปี 2568

รายงานสถานการณ์ด้านจริยธรรมวิชาชีพสื่อมวลชน ประจำปี 2568

ปี 2568  สื่อมวลชนไทยยังคงเผชิญกับความท้าทายในหลายเรื่อง และยังถูกตั้งคำถามถึงความน่าเชื่อถือในสถานการณ์ต่างๆ อันเนื่องจากการนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ : Artificial Intelligence หรือ AI เข้ามาประยุกต์ใช้กันอย่างแพร่หลายมากขึ้น รวมถึงนิเวศสื่อที่เปลี่ยนไป อำนาจและอิทธิพลของสื่อสังคมออนไลน์มีบทบาทสูงขึ้น รวมถึงปัญหาความแพร่หลายของ Fake News หรือ Disinformation ที่ตามมา

สภาการสื่อมวลชนแห่งชาติในฐานะองค์กรวิชาชีพที่ทำหน้าที่ส่งเสริมการกำกับดูแลกันเองทางจริยธรรมสำหรับสื่อมวลชน ซึ่งยกระดับจากสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2563 มีเป้าหมายสำคัญคือการส่งเสริมและพัฒนาสื่อมวลชนทุกแขนงให้คงไว้ซึ่งสิทธิเสรีภาพบนความรับผิดชอบ มีความน่าเชื่อถือและเป็นที่พึ่งของสังคม โดยดำเนินงานผ่านคณะกรรมการที่ประกอบด้วยภาคส่วนสำคัญต่างๆ ทั้งนักวิชาชีพ นักวิชาการ นักกฎหมาย และผู้ทรงคุณวุฒิในสาขาต่าง ๆ เพื่อส่งเสริมและพัฒนาสื่อมวลชนอย่างเข้มแข็ง ได้ติดตามสถานการณ์ด้านจริยธรรมสื่อมวลชนในประเทศไทย และผลักดันกิจกรรมที่จะช่วยให้สื่อมวลชนทุกแขนงสามารถปรับตัว เติบโต เท่าทันการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีและบริบททางสังคมที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว โดยคงไว้ซึ่งจริยธรรมวิชาชีพ และเป็นที่พึ่งพิงของสังคมได้อย่างยั่งยืน

สภาการสื่อมวลชนแห่งชาติ จึงจัดทำรายงานสถานการณ์ด้านจริยธรรมวิชาชีพสื่อมวลชน ประจำปี 2568 ดังนี้

  1. ข้อเสนอแนวทางเชิงนโยบายที่สนับสนุนความรับผิดชอบ ความโปร่งใส และความเชื่อมั่นของสาธารณชนต่อ AI ในสื่อ ในการประชุม Global Forum on the Ethics of AI 2025 

สภาการสื่อมวลชนแห่งชาติ ได้รับเชิญจากสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะสำนักเลขาธิการคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก้)  ให้เป็นเจ้าภาพร่วมจัดกิจกรรมคู่ขนาน Side-Event ของการประชุม Global Forum on the Ethics of AI 2025 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ เพื่อเสนอแนวทางเชิงนโยบายที่สนับสนุนความรับผิดชอบ ความโปร่งใส และความเชื่อมั่นของสาธารณชนต่อการใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในสื่อ

ซึ่งต่อมา สภาการสื่อมวลชนแห่งชาติร่วมกับภาคีเครือข่ายได้จัดสัมมนาและได้ข้อสรุปเสนอต่อการประชุม Global Forum on the Ethics of AI 2025 แยกเป็นข้อเสนอต่อรัฐบาล ต่อ Global Platforms และผู้สนับสนุนรายได้ (ทั้งค่าย AI และ Social Media รวมถึงเอเจนซีโฆษณา) ต่อองค์กรสื่อมวลชน และต่อผู้บริโภคสื่อ/ภาควิชาการ

  1. จัดทำแนวปฏิบัติการรายงานข่าวเด็ก แนวปฏิบัติการรายงานข่าวอาชญากรรมและเหตุการณ์ความรุนแรง และคู่มือจริยธรรมสื่อมวลชนในกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์

สภาการสื่อมวลชนแห่งชาติ สภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย และสมาคมสภาวิชาชีพกิจการการแพร่ภาพและการกระจายเสียง ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ จัดทำแนวปฏิบัติการรายงานข่าวเด็ก แนวปฏิบัติการรายงานข่าวอาชญากรรมและเหตุกาณณ์ความรุนแรง และคู่มือจริยธรรมสื่อมวลชนในกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์

โดยแนวปฏิบัติการรายงานข่าวเด็ก มี 6 หมวด หมวด 1 คำนิยาม หมวด 2 การรายงานข่าวเด็กในสถานการณ์ทั่วไป หมวด 3 หลักการรายงานข่าวเด็กที่กระทำความผิด หมวด 4 หลักการรายงานข่าวเด็กที่ได้รับผลกระทบหรือเป็นผู้เสียหาย หมวด 5 หลักการรายรายงานข่าวเด็กที่ต้องการความคุ้มครองพิเศษ   หมวด 6 หลักการรายงานข่าวเด็กอย่างสร้างสรรค์ เพื่อให้เป็นแนวทางในการสร้างสมดุลระหว่างเสรีภาพในการรายงานข่าวและการคุ้มครองสิทธิเด็กสำหรับสื่อมวลชนทุกแขนง อันนำไปสู่การยกระดับคุณภาพการรายงานข่าวในสังคมข้อมูลข่าวสารเพื่อสร้างระบบนิเวศสื่อที่ส่งเสริม ปกป้อง คุ้มครองสิทธิเด็กอย่างเหมาะสม

แนวปฏิบัติการรายงานข่าวอาชญากรรมและเหตุการณ์ความรุนแรง มี 7 หมวด หมวด 1 คำนิยาม หมวด 2 หลักการทั่วไปในการรายงานข่าวอาชญากรรมและเหตุการณ์ความรุนแรง หมวด 3 หลักการรายงานเหตุฆ่าตัวตาย หมวด 4 หลักการรายงานเหตุล่วงละเมิดทางเพศ หมวด 5 หลักการรายงานเหตุกราดยิง หมวด 6 หลักการรายงานเหตุสู้รบ หมวด 7 หลักการรายงานข่าวอาชญากรรมและเหตุการณ์ความรุนแรงอย่างสร้างสรรค์ ทั้งนี้ เพื่อให้เป็นแนวทางในการสร้างสมดุลระหว่างเสรีภาพในการรายงานข่าวเพื่อประโยชน์สาธารณะกับการคุ้มครองสิทธิส่วนบุคคลและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ อันนำไปสู่การยกระดับคุณภาพการรายงานข่าวสำหรับสื่อมวลชนทุกแขนงเพื่อเป็นสื่อกลางในการป้องกัน เตือนภัย ลดผลกระทบจากความรุนแรงของเหตุการณ์ และร่วมสร้างระบบนิเวศสื่อที่ส่งเสริม ปกป้อง คุ้มครองสิทธิมนุษยชนที่ยั่งยืน

คู่มือจริยธรรมสื่อมวลชนในกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ มี 4 หมวด หมวด 1 บทนำ หมวด 2 คำนิยาม หมวด 3 หลักจริยธรรมทั่วไปของสื่อมวลชน และหมวด 4 หลักจริยธรรมขั้นพื้นฐานและแนวปฏิบัติของผู้ประกอบวิชาชีพสื่อสารมวลชน

  1. โครงการค่าย “การสื่อสารวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมอย่างมีจริยธรรม” สำหรับนิสิตนักศึกษา (ESRI Camp)

สภาการสื่อมวลชนแห่งชาติ โดยการสนับสนุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) จัดโครงการค่าย “การสื่อสารวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมอย่างมีจริยธรรม” สำหรับนิสิตนักศึกษา (ESRI Camp) เพื่อเปิดโอกาสให้นิสิตนักศึกษาได้ฝึกฝนทักษะการสื่อสารวิทยาศาสตร์อย่างรอบด้าน ตั้งแต่การคิดประเด็น การผลิตเนื้อหา ไปจนถึงการนำเสนออย่างมีจริยธรรม ซึ่งจะช่วยให้นิสิตนักศึกษาที่เข้าโครงการพัฒนาทั้งความรู้ ความคิดสร้างสรรค์ และความรับผิดชอบต่อสังคม  

  1. การพิจารณาเรื่องร้องเรียนด้านจริยธรรมสื่อมวลชน

ในปี 2568 คณะกรรมการจริยธรรมได้พิจารณาเรื่องร้องเรียน ทั้งร้องเรียนผ่านทางเว็บไซต์ ทางเอกสาร และเรื่องที่หยิบยกขึ้นมาพิจารณาโดยคณะกรรมการฯ ทั้งสิ้น 12 เรื่อง โดยคณะกรรมการจริยธรรมมีมติให้ยุติการพิจารณา 1 เรื่อง เนื่องจากผู้ร้องร้องเรียนข่าวที่นำเสนอในหนังสือพิมพ์และเว็บไซต์ตั้งแต่ปี 2560 ตามธรรมนูญสภาการสื่อมวลชนแห่งชาติ พ.ศ.2563 ข้อ 23 ห้ามมิให้คณะกรรมการรับเรื่องไว้พิจารณาดำเนินการในกรณีดังต่อไปนี้ (3) เรื่องที่ล่วงเลยมาแล้วเกิน 120 วัน นับแต่วันที่ผู้เสียหายทราบเรื่อง หรือเกิน 1 ปี นับแต่วันเกิดเหตุ เว้นแต่คณะกรรมการจะเห็นว่าเป็นเรื่องสำคัญเกี่ยวข้องต่อประโยชน์สาธารณะ หรือมีผลกระทบต่อเกียรติศักดิ์แห่งวิชาชีพสื่อมวลชน นอกจากนี้มี 1 เรื่องที่ผู้ถูกร้องไม่ได้เป็นองค์กรสมาชิกสภาการสื่อมวลชนแห่งชาติ จึงได้ส่งเรื่องต่อไปยังสภาวิชาชีพที่ผู้ถูกร้องเป็นองค์กรสมาชิก เพื่อดำเนินการตามกระบวนการของสภาวิชาชีพดังกล่าว สำหรับเรื่องร้องเรียนอีก 10 เรื่องที่อยู่ในกระบวนการพิจารณา มีดังนี้

  • ร้องเรียนจรรยาบรรณวิชาชีพและจริยธรรมวิชาชีพ กรณีนักข่าวและบรรณาธิการ

ผู้ร้องได้ร้องเรียนผ่านทางเว็บไซต์ร้องเรียนการทำหน้าที่ของผู้สื่อข่าวและการนำเสนอข่าวของบรรณาธิการสำนักข่าวแห่งหนึ่ง เกี่ยวกับการชุมนุมประท้วงผู้ร้องในสถานศึกษาแห่งหนึ่ง จนต่อมาผู้ร้องถูกย้ายออกจากพื้นที่ โดยผู้ร้องระบุว่าการประท้วงดังกล่าวมีการจัดตั้ง และผู้สื่อข่าวก็ไม่ได้ติดต่อสัมภาษณ์เพื่อให้การรายงานข่าวครบถ้วนรอบด้าน แต่ได้นำเสนอข่าวไปก่อน จนเมื่อผู้ร้องได้เดินทางไปร้องเรียนสำนักข่าวดังกล่าวถึงสำนักงาน จึงได้มีการติดต่อจากผู้สื่อข่าว และนำเสนอข่าวในภายหลัง ขณะที่บรรณาธิการข่าว ได้รับข่าวแต่ไม่ได้กลั่นกรอง และนำเสนอข่าวที่ได้มาในตอนแรกในทันที โดยเรื่องนี้ อยู่ระหว่างการพิจารณาคำอุทธรณ์ของผู้ร้องเรียน

    • ร้องเรียนจรรยาบรรณสื่อและการพาดหัวข่าวเพื่อเป็นเครื่องมือในการเรียกกระแส

    ผู้ร้องได้ร้องเรียนผ่านเว็บไซต์ร้องเรียนสำนักข่าวออนไลน์แห่งหนึ่งนำเสนอข่าว “หนุ่มเมาแล้วกร่างตบกระจกรถ” เป็นการพาดหัวข่าวที่รุนแรง ไม่มีมูลความจริง ไม่กลั่นกรองเนื้อหาข่าว ใช้สื่อเพื่อสร้างข่าวใส่ร้ายให้เกิดกระแสในทางลบก่อให้เกิดความเสียหายและเกลียดชังผู้ร้อง โดยคณะกรรมการพิจารณาเรื่องร้องเรียนภายในองค์กรภาคเหนือได้ประชุมเสนอความเห็นแล้ว อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการจริยธรรม

    • ร้องเรียนให้สอบจริยธรรมของสื่อมวลชนหรือพฤติกรรมของผู้ประกอบวิชาชีพพิธีกรรายงานข่าว

    ผู้ร้องได้ร้องเรียนผ่านเว็บไซต์ร้องเรียนพิธีกรผู้ดำเนินรายการข่าวหนึ่ง ใช้สีหน้า อารมณ์ ท่าทาง ในการรายงานข่าวเกินกว่าที่ควร การนำเสนอข่าวบางช่วงมีการใช้ถ้อยคำเรียกบุคคลในช่าวในลักษณะไม่ให้เกียรติ นำเสนอข่าวไม่มุ่งเน้นถึงประเด็นที่เป็นใจความสำคัญ เรื่องนี้ อยู่ระหว่างการรอคำชี้แจงจากผู้ถูกร้องเรียน

    • ร้องเรียนการเสนอข่าวบิดเบือน

    ผู้ร้องได้ร้องเรียนผ่านเว็บไซต์ร้องเรียนสำนักข่าวแห่งหนึ่งพาดหัวข่าว สส.ของพรรคการเมืองหนึ่งเสนอนายกฯ โละรัฐมนตรีของพรรคทุกคน ขาดความรู้ความสามารถ-มีข้อกังวลด้านจริยธรรม ซึ่งต่อมาสส.ของพรรคการเมืองนั้น ออกมาชี้แจงว่า ไม่เคยลงชื่อ และไม่เคยรับรู้หรือเข้าร่วมการดำเนินการใด ๆ ตามที่เป็นข่าว เรื่องนี้ อยู่ระหว่างการรอคำชี้แจงจากผู้ถูกร้องเรียน

    • ร้องเรียนการนำเสนอข่าวที่อาจสร้างความเกลียดชังต่อแรงงานข้ามชาติ

    ผู้ร้องได้ร้องเรียนผ่านเว็บไซต์ร้องเรียนสำนักข่าวแห่งหนึ่งนำเสนอข่าวที่อาจสร้างความเกลียดชังต่อแรงงานข้ามชาติ ในการหารือควบรวม 3 กองทุนสุขภาพให้สิทธิรักษาพยาบาลต่างด้าวเท่าคนไทย ด้วยคำว่า “เรื่องสยอง 2 บรรทัด ควบรวม 3 กองทุนสุขภาพไทยให้สิทธิต่างด้าวเท่าไทย” ซึ่งเป็นถ้อยคำที่สามารถสร้างความเกลียดชังต่อแรงงานข้ามชาติจากการที่ได้มีโอกาสได้สิทธิการรักษาทัดเทียมคนไทย เรื่องนี้ อยู่ระหว่างการรอคำชี้แจงจากผู้ถูกร้องเรียน

    • ร้องเรียนนักข่าว

    ผู้ร้องได้ร้องเรียนทางเอกสารร้องเรียนว่าได้รับผลกระทบอันเนื่องจากการนำเสนอข้อมูลข่าวสารอันเป็นเท็จ จากนักข่าวท้องถิ่น เช่น การสัมภาษณ์ข่าว การรายงานข่าวเฉพาะฝ่ายเดียว กระทำตัวเป็นหัวหน้าม็อบปลุกปั่นชาวบ้านให้ประท้วง นำเสนอข้อมูลที่ไม่ครบถ้วนส่อเจตนาปกปิดข้อเท็จจริงต่อสำนักข่าวส่วนกลาง เรื่องนี้ อยู่ระหว่างการรอคำชี้แจงจากผู้ถูกร้องเรียน

    • ร้องเรียนการนำเสนอข่าวปาร์ตี้ยากลุ่ม LGBTQ

    ผู้ร้องได้ร้องเรียนทางเอกสารร้องเรียนการนำเสนอข่าวปาร์ตี้ยากลุ่ม LGBTQ ของสื่อ มีภาพการหยิบถุงยางโชว์ ภาพผู้ต้องหาเปลือยกาย ผิดข้อบังคับว่าด้วยจริยธรรมแห่งวิชาชีพสื่อมวลชนค่อนข้างชัดเจน เรื่องนี้ อยู่ระหว่างการรอคำชี้แจงจากผู้ถูกร้องเรียน

    • ตรวจสอบการนำเสนอข่าวสส. สวมนาฬิกาหรู

    คณะกรรมการจริยธรรม สภาการสื่อมวลชนแห่งชาติ หยิบยกเรื่องขึ้นมาพิจารณา กรณีสำนักข่าวแห่งหนึ่ง นำเสนอข่าวจากเพจแห่งหนึ่งโพสต์ภาพสส. คนหนึ่งขณะสวมใส่นาฬิกา โดยระบุว่าเป็นนาฬิกาหรู ต่อมาสส. คนดังกล่าวได้ชี้แจงว่าไม่ใช่นาฬิกาหรู  เรื่องนี้ อยู่ระหว่างการรอคำชี้แจงจากผู้ถูกร้องเรียน

    • ตรวจสอบการนำเสนอข่าวการเสียชีวิตของพยาบาล

    คณะกรรมการจริยธรรม สภาการสื่อมวลชนแห่งชาติ หยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาพิจารณา กรณีสมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทย ออกแถลงการณ์ เรื่อง ขอเรียกร้องความรับผิดชอบจากสื่อมวลชนต่อการรายงานข่าวที่บิดเบือนและละเมิดศักดิ์ศรีของพยาบาลผู้เสียชีวิต เรื่องนี้ ผู้ถูกร้องเรียนได้มีแถลงการณ์ชี้แจงและขอโทษแล้ว รอการแจ้งผลการดำเนินการอย่างเป็นทางการ

    • ตรวจสอบการปฏิบัติตามข้อบังคับว่าด้วยจริยธรรมแห่งวิชาชีพสื่อมวลชน

    คณะกรรมการจริยธรรม สภาการสื่อมวลชนแห่งชาติ หยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาพิจารณา กรณีที่มีการเสนอข่าวโดยอ้างที่มาจากเพจหนึ่ง เกี่ยวกับนายกรัฐมนตรีเกาหลีใต้จะเปิดเผยรายชื่อนักการเมืองไทย 7 คนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งต่อมาสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลี ประจำประเทศไทย ได้ออกแถลงการณ์ชี้แจงว่า ข้อกล่าวหาดังกล่าวไม่เป็นความจริงและไม่มีมูล นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐเกาหลีไม่เคยกล่าวถ้อยคำในลักษณะดังกล่าวแต่อย่างใด เรื่องนี้ อยู่ระหว่างการรอคำชี้แจงจากผู้ถูกร้องเรียน

    โดยสรุปแล้ว ในรอบปีที่ผ่านมา สภาการสื่อมวลชนแห่งชาติ ยังคงได้รับการร้องเรียนด้านจริยธรรมจากการทำหน้าที่ของสื่อมวลชนทั้งที่เป็นสมาชิกและไม่ได้เป็นสมาชิกอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเรื่องร้องเรียนดังกล่าว บางส่วนมาจากการร้องเรียนของผู้มีส่วนได้เสียโดยตรงจากการนำเสนอข่าวสารหรือภาพข่าวต่างๆ ของสมาชิก และบางส่วนเป็นการหยิบยกประเด็นปัญหาการละเมิดจริยธรรมผ่านคณะทำงาน คณะอนุกรรมการและคณะกรรมการของสภาการสื่อมวลชนแห่งชาติ

    สำหรับในปี 2569 แนวโน้มการนำเสนอข่าวของสื่อมวลชนอาจก่อให้เกิดปัญหาด้านจริยธรรมเพิ่มมากขึ้น เช่น การใช้ AI ในการนำเสนอข่าวอย่างไม่ระมัดระวัง รวมถึงการนำข้อมูลหรือเรื่องราวต่างๆ จากโซเชียลมีเดียมานำเสนอโดยไม่มีการกลั่นกรอง จนอาจก่อให้เกิดความผิดพลาดและเสียหายแก่ผู้ที่เกี่ยวข้อง จึงขอให้สื่อมวลชนตรวจสอบข้อมูลด้วยความรอบคอบ และคำนึงถึงแนวปฏิบัติและข้อบังคับว่าด้วยจริยธรรมวิชาชีพวิชาชีพเป็นหลักในการปฏิบัติงาน เพื่อให้สาธารณชนเกิดความเชื่อมั่นในการนำเสนอข่าวของสื่อมวลชน.   

    สภาการสื่อมวลชนแห่งชาติ

    29 ธันวาคม 2568