คณะกรรมการ Ombudsman “ไทยรัฐ” เตือนผู้เขียนคอลัมน์ “คนดังอะราวนด์เดอะเวิลด์” ในหัวเรื่อง “กินเด็กจนได้ดี!! ขึ้นแท่นสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง” หลังยอมรับไม่มีเจตนาดูหมิ่นเหยียดหยามภรรยาประธานาธิบดีฝรั่งเศส และกระทำไปด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์
ตามที่คณะกรรมการจริยธรรม สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ ได้มีหนังสือลงวันที่ ๑๕ พฤษภาคม ๒๕๖๐ ถึงประธานคณะกรรมการพิจารณาเรื่องร้องเรียนภายในองค์กร หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ และองค์กรสื่อในเครือไทยรัฐ ร้องเรียนกรณีคอลัมน์ “คนดังอะราวนด์เดอะเวิลด์” โดยผู้ใช้นามปากกาว่า “มิสแซฟไฟร์” ในหัวเรื่อง “กินเด็กจนได้ดี!! ขึ้นแท่นสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง” เมื่อวันที่ ๖ พฤษภาคม ๒๕๖๐ ซึ่งได้กล่าวถึงภรรยาของประธานาธิบดีคนใหม่ของฝรั่งเศส ด้วยถ้อยคำที่ไม่สุภาพและไม่เหมาะสม หมิ่นเหม่ต่อการละเมิดข้อบังคับว่าด้วยจริยธรรมแห่งวิชาชีพหนังสือพิมพ์สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ พ.ศ.๒๕๕๙ ข้อ ๑๘ ความว่า “หนังสือพิมพ์พึงหลีกเลี่ยงการใช้คำที่ไม่สุภาพ หรือภาษาที่สื่อความหมายเชิงเหยียดหยาม หรืออยู่ในข่ายประทุษวาจา หรือแสดงนัยเชิงลบ”
คณะกรรมการพิจารณาเรื่องร้องเรียนภายในองค์กร หนังสือพิมพ์ไทยรัฐและองค์กรสื่อในเครือไทยรัฐ ได้รับเรื่องดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาเมื่อวันที่ ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๖๐ โดยเชิญผู้เขียนคอลัมน์ดังกล่าวมาชี้แจงเมื่อวันที่ ๙ มิถุนายน ๒๕๖๐ ซึ่งผู้เขียนยอมรับว่า ภาษาที่ใช้มีความรุนแรงเกินไปและเป็นการใช้คำที่ไม่เหมาะสมจริงตามที่มีการร้องเรียน โดยเขียนไปโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์และไม่มีเจตนาดูหมิ่นเหยียดหยามภรรยาประธานาธิบดีฝรั่งเศส พร้อมทั้งยืนยันว่า จะใช้ความระมัดระวังมากขึ้น
คณะกรรมการพิจารณาเรื่องร้องเรียนภายในองค์กร หนังสือพิมพ์ไทยรัฐและองค์กรสื่อในเครือไทยรัฐ ได้พิจารณาคำชี้แจงดังกล่าวแล้วเห็นว่า ผู้เขียนคอลัมน์ที่ถูกร้องเรียน ได้กระทำการละเมิดข้อบังคับว่าด้วยจริยธรรมแห่งวิชาชีพหนังสือพิมพ์ สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ พ.ศ.๒๕๕๙ ข้อ ๑๘ จริง แต่ผู้เขียนไม่มีเจตนาที่จะดูหมิ่นเหยียดหยามภรรยาประธานาธิบดีฝรั่งเศสและกระทำไปด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์
คณะกรรมการจึงมีมติให้ส่งคำวินิจฉัยไปยังบรรณาธิการบริหาร หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ในฐานะผู้บังคับบัญชาเพื่อตักเตือนผู้เขียนมิให้ละเมิดข้อบังคับว่าด้วยจริยธรรมแห่งวิชาชีพหนังสือพิมพ์ สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติอีก
อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการจริยธรรม สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ ได้รับทราบคำวินิจฉัยแล้ว และมีมติเห็นชอบตามคำวินิจฉัยของคณะกรรมการพิจารณาเรื่องร้องเรียนภายในองค์กร หนังสือพิมพ์ไทยรัฐและองค์กรสื่อในเครือไทยรัฐ พร้อมทั้งรายงานให้คณะกรรมการสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติทราบแล้ว