แนวปฏิบัติฯ การเสนอข่าว ความคิดเห็น และภาพเกี่ยวกับผู้มีความหลากหลายทางเพศ พ.ศ. ๒๕๖๔

แนวปฏิบัติสภาการสื่อมวลชนแห่งชาติ

เรื่องการเสนอข่าว ความคิดเห็น และภาพเกี่ยวกับผู้มีความหลากหลายทางเพศ พ.ศ. ๒๕๖๔

เพื่อให้การเสนอข่าว เนื้อหาข่าว การแสดงความคิดเห็น และเนื้อหาทั่วไป เกี่ยวกับผู้มีความหลากหลายทางเพศ เป็นไปโดยคำนึงถึงศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ตามข้อบังคับว่าด้วยจริยธรรมแห่งวิชาชีพสื่อมวลชน สภาการสื่อมวลชนแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๔ หลักการยอกยาการ์ตา ว่าด้วยการใช้กฎหมายสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศในประเด็นความหลากหลายทางเพศ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. ๒๕๖๐ พระราชบัญญัติว่าด้วยความเท่าเทียมระหว่างเพศ พ.ศ. ๒๕๕๘ และกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง สภาการสื่อมวลชนแห่งชาติ จึงกำหนดแนวปฏิบัติ เรื่องการเสนอข่าว ความคิดเห็น และภาพเกี่ยวกับผู้มีความหลากหลายทางเพศ พ.ศ. ๒๕๖๔ ดังต่อไปนี้  

ข้อ ๑ การเสนอข่าว เนื้อหาข่าว การแสดงความคิดเห็น และเนื้อหาทั่วไป เกี่ยวกับผู้มีความหลากหลายทางเพศ ต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานของการเคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ สิทธิมนุษยชน ความเสมอภาค การไม่เลือกปฏิบัติ และสอดคล้องกับพันธกรณีระหว่างประเทศ รัฐธรรมนูญ และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

ข้อ ๒ การเสนอข่าว เนื้อหาข่าว การแสดงความคิดเห็น และเนื้อหาทั่วไป เกี่ยวกับผู้มีความหลากหลายทางเพศ มีดังนี้

          ๒.๑ ต้องไม่ใช้ภาษาหรือถ้อยคำที่มีอคติ ตัดสิน เหมารวม หรือที่ก่อให้เกิดความรู้สึกเชิงเหยียดหยามศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ เพราะเหตุความหลากหลายทางเพศ   

          ๒.๒ พึงหลีกเลี่ยงการนำเสนอข่าว เนื้อหาข่าว การแสดงความคิดเห็น และเนื้อหาทั่วไป ของผู้มีความหลากหลายทางเพศในเชิงลบที่ทำให้เห็นว่าเป็นเรื่องแปลกหรือผิดปกติ

          ๒.๓ พึงหลีกเลี่ยงการเสนอเรื่องส่วนตัวของผู้มีความหลากหลายทางเพศ

          ๒.๔ พึงระมัดระวังการใช้ภาษาที่เป็นการตีตราหรือตอกย้ำความคิดความเชื่อ ที่เป็นการซ้ำเติมหรือเลือกปฏิบัติต่อผู้มีความหลากหลายทางเพศ

          ๒.๕ พึงใช้คำสรรพนามอันเป็นที่ยอมรับของกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ เพื่อเป็นการให้เกียรติในความเป็นมนุษย์ด้วยกัน

ข้อ ๓ ข่าว เนื้อหาข่าว การแสดงความคิดเห็น เนื้อหาทั่วไป ตามแนวปฏิบัติฉบับนี้หมายถึง ข่าว เนื้อหาข่าว การแสดงความคิดเห็น เนื้อหาทั่วไป ตามข้อบังคับว่าด้วยจริยธรรมแห่งวิชาชีพสื่อมวลชน สภาการสื่อมวลชนแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๔

สภาการสื่อมวลชนแห่งชาติ

๑๒ ตุลาคม ๒๕๖๔